713 จำนวนผู้เข้าชม |
วันนี้มาทำความรู้จักกับ "ระแนงไม้" กัน นอกจากการตกแต่งภายในบ้าน อาคาร ที่ต้องคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยและความสวยงามเป็นหลักแล้วนั้น ยังมีอีกส่วนที่ต้องการการใส่ใจไม่แพ้กัน นั่นคือภายนอกบ้าน อาคาร นอกจากตัวโครงสร้างของบ้านและอาคารแล้วบริเวณภายนอกยังต้องการการตกแต่งเหมือนกัน
การตกแต่งภายนอกสามารถบ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี เจ้าระแนงไม้นี้ มีคุณสมบัติและประโยชน์ใช้สอยตรงตามโจทย์ครบเลยทีเดียว ทั้งการใช้งานและความสวยงาม ทำให้บ้านเราดูมีมิติมากยิ่งขึ้น
ประโยชน์ของระแนงมีอะไรบ้าง
1. บังแดด/บังลม
คุณสมบัติหลักๆของระแนงคือการบังแดดและลม การติดระแนงส่วนมากแล้วจะติดตั้งเพื่อบังหรือลดแสงที่ส่องเข้ามาภายในบริเวณบ้าน ทั้งสามารถบังลมและลดการปะทะของลมได้เป็นอย่างดี
2. บังสายตา/เพิ่มความเป็นส่วนตัว
เนื่องจากระแนงนั้นวัสดุที่มีขนาดเท่ากันมาเรียงตัวต่อกันโดยเว้นระยะช่องไฟเท่าๆกัน จึงทำให้เกิดความทึบเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้แก่บ้านและสามารถลดการสอดส่องของเพื่อนบ้านได้เป็นอย่างดี
3. ทำรั้วบ้าน/กั้นพื้นที่
ระแนงไม้สามารถนำมาทำรั้วบ้านและกั้นพื้นที่ได้และได้รับความนิยมเป็นส่วนมาก เนื่องจากสามารถตีได้หลายแนว แนวตั้ง แนวนอน แนวเฉียง ตามความชอบของเจ้าของบ้าน รั้วระแนงจะมีช่องไฟที่สม่ำเสมอ ถี่มากถี่น้อยแล้วแต่ความชอบ จึงทำให้รั้วบ้านหรือพื้นที่ที่เราต้องการแบ่งโซนดูโปร่งสบายและไม่อึดอัด ทำให้บ้านมีมิติและความเรียบเท่ขึ้นมาอีกระดับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้และความถี่ของระแนง วัสดุและความถี่ต่างกันอาจทำให้ความรู้สึกออกมาต่างกันได้เช่นกัน รวมทั้งการเลือกสีให้เข้ากับพื้นที่นั้นๆด้วย
4. ตกแต่งเพื่อความสวยงาม
นอกจากระแนงสามารถทำรั้วบ้าน กั้นพื้นที่แบ่งโซน บังลม บังแดดได้แล้วนั้น ยังสามารถนำไปใช้ตกแต่งส่วนต่างๆของบ้านได้อีกด้วย เช่น หลังคาโรงรถ พื้น ผนังบ้าน จะทำให้บ้านเราดูมีลูกเล่น ดีเทลมากยิ่งขึ้น
ระแนง สามารถแบ่งได้ 3 ชนิดหลักๆ
คือ ระแนงไม้ธรรมชาติ ระแนงไม้สังเคราะห์ ระแนงเหล็ก วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับระแนงไม้ธรรมชาติและระแนงไม้สังเคราะห์กันว่ามีกี่แบบกี่ชนิด
1. ระแนงไม้ธรรมชาติ
โดยส่วนมากใช้ไม้เนื้อแข็งจากธรรมชาตินำมาแปรรูปเพราะจะแข็งแรง ทนทานกว่า ทั้งนี้ยังมีระแนงไม้ที่ทำมาจากไม้สนที่เป็นไม้เนื้ออ่อนอีกด้วย ระแนงไม้ที่เป็นไม้ธรรมชาติ จะมีสีสัน ลวดลาย และผิวสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ของไม้ แต่ระแนงไม้ธรรมชาติต้องการการดูแลรักษาเป็นพิเศษ เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ทำให้ระแนงไม้ชำรุดเสียหายได้ เช่น การยืดและหดตัวของไม้ซึ่งอาจเกิดจากสภาพอากาศและอุณหภูมิ การกัดแทะของมอดและปลวก ทั้งยังมีราคาสูงเลยทีเดียว
2. ระแนงไม้ที่ทำจากสังเคราะห์ สามารถแบ่งย่อยได้อีก 3 ชนิด
2.1 ระแนงไม้เทียม มาจากวัสดุที่เป็นพลาสติกคอมโพสิท (wood plastic composite) คือการนำพลาสติกมาผสมกับผงไม้หรือเศษไม้จริง แล้วนำมาขึ้นรูปโดยการบีบอัด รีด ทำให้แข็งแรง ทนทาน ไม่ติดไฟ สามารถเลือกสีได้หลากหลาย น้ำหนักเบา เหนียวกว่าชนิดไฟเบอร์ซีเมนต์ แต่ไม่ค่อยเหมือนไม้จริงสักเท่าไหร่ ขั้นตอนการเลือกสีควรแน่ใจว่าได้สีที่เราต้องการแล้วจริงๆ เพราะเราไม่สามารถทาสีทับลงไปได้
2.2 ระแนงไม้ไวนิล วัสดุทำมาจากพลาสติก ทนต่อรังสี UV และแสงแดด ความสวยงามใกล้เคียงกับไม้จริง มีน้ำหนักค่อนข้างเบา ไม่เกิดการยืดและหดตัวเหมือนไม้ธรรมชาติ
2.3 ระแนงไซเบอร์ซีเมนต์ วัสดุชนิดนี้จะมีความแข็งแรง ทนทานมากกว่าวัสดุสังเคราะห์อื่นๆ มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า ประมาณ 10-15 ปีเลยทีเดียว เนื่องจากตัววัสดุมีส่วนผสมของเส้นใยธรรมชาติ ปูน ทรายและเศษไม้ ขึ้นรูปโดยการอัด ทำให้มีน้ำหนักมาก กรณีเกิดการชำรุดหรือแตกหักทำให้เห็นเศษปูนนั่นเอง ไม่สามารถทาสีทับได้ต้องเปลี่ยนชิ้นใหม่เท่านั้น
ระแนงไม้ เรียงตัวแนวไหนเหมาะสมกับบ้านเรามากที่สุด?
1.แนวตั้ง
ให้ความรู้สึกมั่งคง หนักแน่น ความถี่มากจะให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว ปลอดภัย ห่างหน่อยก็จะโปร่งสบาย
2.แนวนอน
ให้ความรู้สึก กว้าง สงบนิ่ง เรียบง่าย
3. แนวเฉียง
ให้ความรู้สึกเคลื่อนไหว ไม่หยุดนิ่ง รวดเร็ว
4.แนวเส้นตัดกัน
ให้ความรู้สึก ประสานกัน แข็งแรง มั่นคง มีมิติ มีทั้งแบบกากบาท และ ลายบวก